เจาะคอนกรีต เปิดช่องหลังสร้างเสร็จ ต้องดูอะไรบ้างก่อนเริ่มงาน

เจาะคอนกรีต เปิดช่องหลังสร้างเสร็จ ต้องดูอะไรบ้างก่อนเริ่มงาน

ในการก่อสร้างอาคาร ไม่ว่าจะเป็นบ้านพักอาศัย สำนักงาน หรือโรงงาน มักจะมีกรณีที่ต้องเปิดช่องเพิ่มเติมภายหลังจากที่โครงสร้างหลักเสร็จสมบูรณ์แล้ว ไม่ว่าจะเป็นการเดินระบบไฟฟ้าเพิ่ม ติดตั้งท่อแอร์ เจาะผนังเพื่อเพิ่มหน้าต่าง หรือแม้แต่ปรับพื้นที่ใช้สอยใหม่ ซึ่งสิ่งที่ตามมาคือการเจาะคอนกรีต ซึ่งฟังดูเหมือนเป็นแค่งานเจาะทั่วไป แต่ในความเป็นจริงกลับเต็มไปด้วยความเสี่ยง หากไม่ได้วางแผนให้รอบคอบ หลายคนมองว่าการเจาะแค่รูหนึ่งบนผนังหรือพื้นคอนกรีตเป็นเรื่องเล็ก แต่หากจุดที่เจาะไปนั้นเป็นโครงสร้างรับแรงหลัก หรือมีระบบท่อไฟสายไฟฝังอยู่โดยไม่รู้ตัว ผลกระทบที่เกิดขึ้นอาจร้ายแรงกว่าที่คิด ทั้งความเสียหายต่ออาคาร ไปจนถึงอันตรายต่อชีวิตและทรัพย์สิน เราจะพาคุณไปทำความเข้าใจว่าก่อนจะเจาะคอนกรีตเพื่อเปิดช่องในอาคารที่สร้างเสร็จแล้ว ควรเช็กอะไรบ้าง เตรียมตัวอย่างไร และจะหลีกเลี่ยงความเสียหายได้ด้วยวิธีไหนบ้าง เพื่อให้การปรับปรุงอาคารเป็นไปอย่างปลอดภัย รวดเร็ว และไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายซ้ำซ้อนภายหลัง

การเปิดช่อง หรือช่องเปิดคืออะไรในงานก่อสร้าง

การเปิดช่อง หรือช่องเปิดคืออะไรในงานก่อสร้าง

การเปิดช่อง หรือช่องเปิดในงานก่อสร้าง คือการเว้นหรือเจาะรูบางส่วนขององค์ประกอบอาคาร เช่น ผนัง พื้น เพดาน หรือแม้แต่คาน เพื่อให้มีพื้นที่สำหรับใช้งานบางอย่างโดยเฉพาะ เช่น เป็นทางเข้าออก เป็นทางผ่านของแสงและอากาศ หรือเป็นทางเดินของงานระบบต่าง ๆ อย่างท่อน้ำ ท่อแอร์ สายไฟ หรือท่อดับเพลิง ช่องเปิดจึงไม่ใช่เพียงแค่รูที่เว้นไว้ธรรมดา แต่เป็นองค์ประกอบสำคัญที่ส่งผลต่อทั้งฟังก์ชัน ความสะดวกสบาย และความปลอดภัยของอาคาร

โดยปกติช่องเปิดจะถูกวางแผนไว้ตั้งแต่ขั้นตอนการออกแบบ เช่น ช่องหน้าต่าง ช่องประตู ช่องลิฟต์ หรือช่องบันได ซึ่งทั้งหมดนี้ต้องมีขนาด รูปทรง และตำแหน่งที่เหมาะสมกับการใช้งาน และต้องไม่กระทบต่อความมั่นคงของโครงสร้าง แต่ในบางกรณี เช่น ต้องการเพิ่มระบบใหม่ เปลี่ยนการใช้งาน หรือปรับปรุงพื้นที่ ช่องเปิดก็อาจเกิดขึ้นภายหลังจากที่อาคารสร้างเสร็จแล้ว ซึ่งในกรณีแบบนี้การเจาะต้องทำอย่างระมัดระวัง เพราะถ้าเจาะพลาดไปโดนจุดรับแรงสำคัญ หรือระบบงานเดิมที่ซ่อนไว้ อาจทำให้อาคารเสียหาย หรือเกิดอันตรายได้ ช่องเปิดจึงเป็นทั้งเรื่องของการออกแบบ การวางระบบ และการควบคุมงานก่อสร้างให้สอดคล้องกันอย่างแม่นยำ ไม่ว่าจะเป็นการวางแผนไว้ตั้งแต่ต้น หรือการเจาะเพิ่มภายหลังก็ตาม

เปิดช่องเจาะโครงสร้างภายหลัง เสี่ยงไหม? ถ้าเจาะไม่ถูกวิธี

เปิดช่องเจาะโครงสร้างภายหลัง เสี่ยงไหม ถ้าเจาะไม่ถูกวิธี

แม้การเปิดช่องในโครงสร้างอาคารจะดูเป็นเรื่องธรรมดาที่พบเจออยู่บ่อยครั้งในงานรีโนเวต ต่อเติม หรือปรับปรุงพื้นที่ใช้งาน เช่น เจาะพื้นเพื่อลงท่อ เจาะผนังเพื่อติดตั้งแอร์ หรือเดินสายไฟใหม่ แต่การเจาะโครงสร้างที่สร้างเสร็จแล้ว โดยเฉพาะถ้าไม่ได้วางแผนไว้ตั้งแต่ต้น อาจนำมาซึ่งปัญหาใหญ่ได้แบบไม่รู้ตัว การเจาะโครงสร้างภายหลังมีความเสี่ยงสูง โดยเฉพาะถ้าทำไม่ถูกวิธี เพราะทุกส่วนของโครงสร้าง ไม่ว่าจะเป็นพื้น คาน ผนัง หรือเพดาน ล้วนมีหน้าที่รับน้ำหนักหรือถ่ายแรงตามที่ถูกออกแบบไว้ หากจุดที่เจาะไปเป็นบริเวณที่มีเหล็กเสริมรับแรงหลัก แล้วเจาะพลาดโดนเหล็กเหล่านั้นเข้าไปเต็ม ๆ นอกจากจะลดความแข็งแรงของโครงสร้าง ยังอาจทำให้เกิดการแตกร้าว ทรุดตัว หรือแย่ที่สุดคือพังถล่มได้

นอกจากนี้บางพื้นที่ที่ดูเหมือนจะเป็นแค่ผนังธรรมดา อาจฝังระบบงานเอาไว้ เช่น ท่อน้ำ สายไฟ หรือท่อแอร์ การเจาะโดยไม่เช็กก่อน อาจโดนระบบเหล่านี้พังเสียหาย สร้างความเสียหายทั้งต่อระบบและค่าใช้จ่ายที่ต้องซ่อมใหม่ทั้งหมด ยังไม่นับความเสี่ยงเรื่องฝุ่น เสียง หรือแรงสั่นสะเทือนจากการเจาะที่อาจส่งผลกระทบกับโครงสร้างข้างเคียง โดยเฉพาะในอาคารเก่าหรืออาคารที่ใช้งานอยู่แล้ว ซึ่งอาจมีปัญหาแอบแฝง เช่น ปูนร่อน เหล็กเป็นสนิม หรือไม่มีแผนเสริมโครงสร้างรอบช่องไว้ล่วงหน้า

ก่อนจะเปิดช่องต้องมีการตรวจสอบอะไรบ้างให้ปลอดภัย

ก่อนจะลงมือเจาะหรือเปิดช่องในโครงสร้างอาคาร โดยเฉพาะอาคารที่สร้างเสร็จแล้ว สิ่งสำคัญที่สุดคือต้องมีการตรวจสอบอย่างละเอียดก่อนเริ่มงาน เพื่อความปลอดภัยของทั้งอาคาร ผู้ปฏิบัติงาน และระบบต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง ซึ่งสิ่งที่ควรตรวจสอบ มีดังนี้

  • ตรวจสอบแบบก่อสร้างเดิม
    สิ่งแรกที่ต้องดูเลยคือแบบโครงสร้างเดิม โดยเฉพาะตำแหน่งคาน พื้น เสา และเหล็กเสริมหลักเพื่อดูว่า จุดที่จะเจาะเป็นจุดรับน้ำหนักหรือไม่ มีเหล็กเสริมอยู่บริเวณไหน และช่องที่ต้องการเปิดกระทบกับระบบอื่นหรือไม่ ถ้าไม่มีแบบ ต้องให้วิศวกรช่วยประเมินหน้างานหรือทำการสแกนโครงสร้างแทน
  • สแกนหาเหล็กเสริมและท่อฝังในผนังหรือพื้น
    ก่อนเจาะจริง ต้องใช้เครื่องมือสแกนตรวจหาวัตถุใต้พื้นผิวคอนกรีต เช่น เหล็กเสริมโครงสร้าง ท่อน้ำ ท่อไฟ สายไฟ เพื่อหลีกเลี่ยงการเจาะโดนสิ่งสำคัญเหล่านี้ ซึ่งอาจทำให้เกิดการแตกร้าวหรือเสียหายได้
  • ตรวจสอบระบบงานที่เกี่ยวข้อง
    บางครั้งตำแหน่งที่ต้องการเจาะอาจมีงานระบบฝังอยู่ เช่น ท่อแอร์ในฝ้า สายไฟฝังผนัง และท่อน้ำในพื้นห้องน้ำ การเจาะโดยไม่รู้ว่ามีระบบอะไรอยู่ จะทำให้ระบบเสียหายทันที ซ่อมยากและแพง
  • ประเมินผลกระทบต่อโครงสร้างโดยวิศวกร
    หากช่องที่จะเปิดมีขนาดใหญ่ หรืออยู่ใกล้โครงสร้างสำคัญ เช่น คานรับแรง หรือพื้นคอนกรีตเสริมเหล็ก จำเป็นต้องให้วิศวกรโครงสร้างตรวจสอบและออกแบบการเสริมแรงใหม่ เช่น เสริมเหล็กรอบช่อง เสริมคานรับ
  • ประเมินวิธีการเปิดช่อง และเลือกเครื่องมือให้เหมาะกับงาน
    เครื่องมือที่ใช้มีผลต่อความปลอดภัย เช่น ถ้าต้องการความแม่นยำ ใช้เครื่องคอริ่ง (Coring) ถ้าต้องการตัดเป็นแผ่น ใช้ Wall Saw หรือ Floor Saw และหลีกเลี่ยงการใช้ สกัดหนัก ถ้าอยู่ใกล้ส่วนรับแรง
  • เตรียมมาตรการป้องกันฝุ่น เสียง และแรงสั่นสะเทือน
    โดยเฉพาะอาคารที่ยังมีคนใช้งานอยู่ ต้องควบคุมฝุ่นและเสียง เช่น ใช้น้ำหล่อเลี้ยงระหว่างเจาะ ใช้ผ้าใบกันฝุ่นหรือแผงป้องกัน หรือมีการแจ้งล่วงหน้าแก่ผู้อยู่อาศัยหรือผู้ใช้อาคาร
  • ขออนุญาตหรือแจ้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
    ในอาคารสาธารณะ อาคารสูง หรืออาคารที่มีผู้ใช้งานจำนวนมาก การเจาะช่องอาจต้องแจ้งกับวิศวกรที่รับผิดชอบอาคาร ผู้ควบคุมงาน หรือในบางกรณี ต้องแจ้งเขต หรือเทศบาล หากกระทบต่อความปลอดภัยสาธารณะ

เจาะผนัง เจาะพื้น เปิดช่องหลังสร้าง ต้องทำโดยผู้เชี่ยวชาญ

เจาะผนัง เจาะพื้น เปิดช่องหลังสร้าง ต้องทำโดยผู้เชี่ยวชาญ

ในการเปิดช่องภายหลัง ไม่ว่าจะเพื่อเดินระบบใหม่ ติดตั้งเครื่องใช้ไฟฟ้า เพิ่มช่องระบายอากาศ หรือต่อเติมอาคาร การเจาะเข้าไปในผนัง หรือพื้นคอนกรีตที่เทเสร็จเรียบร้อยแล้ว คือการเข้าไปยุ่งกับโครงสร้างที่ถูกออกแบบไว้เพื่อรองรับน้ำหนักหรือแรงต่าง ๆ อย่างเฉพาะเจาะจง ถ้าคุณเจาะผิดจุด หรือเจาะแบบไม่ถูกวิธี เช่น เจาะโดนเหล็กเสริม เจาะใกล้คานรับแรง เจาะทะลุไปโดนระบบน้ำ-ไฟที่ฝังอยู่ในผนัง ผลเสียที่ตามมาอาจไม่ใช่แค่ต้องแก้งาน แต่มันอาจถึงขั้นทำให้โครงสร้างเสียหาย เสี่ยงต่อการแตกร้าว ทรุด หรือพังถล่มบางส่วนได้เลย โดยเฉพาะในอาคารที่มีหลายชั้น หรือมีการใช้งานหนาแน่น เช่น อาคารสำนักงาน โรงพยาบาล หรือคอนโด

นอกจากนี้หากเจาะโดยคนที่ไม่มีความรู้ ยังมีปัญหาจุกจิกอื่น ๆ ที่ตามมาอีก เช่น ขนาดช่องไม่พอดีกับท่อที่ต้องเดิน เจาะแล้วฝุ่นกระจายเต็มอาคาร เจาะแล้วเสียงสะเทือนจนกระทบห้องข้างเคียง หรือเจาะผิดมุมจนต้องทุบซ้ำหลายรอบ นี่จึงเป็นเหตุผลว่างานเจาะโครงสร้างหลังสร้างเสร็จ ควรทำโดยผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น ผู้เชี่ยวชาญที่ว่านี้ไม่จำเป็นต้องเป็นวิศวกรเสมอไป แต่ควรเป็นทีมงานที่มีประสบการณ์ตรง มีเครื่องมือเฉพาะทาง เช่น เครื่องคอริ่ง เครื่องสแกนเหล็ก มีความรู้เรื่องโครงสร้างเบื้องต้น และมีความเข้าใจในระบบงานของอาคารนั้น ๆ ในบางกรณี เช่น การเจาะเปิดช่องขนาดใหญ่ในพื้นอาคาร การเจาะทะลุหลายชั้น หรือการเจาะใกล้คาน-เสาโครงสร้าง ควรให้ วิศวกรโครงสร้าง เป็นผู้วิเคราะห์และออกแบบการเสริมแรงร่วมด้วย

สรุป

การเจาะผนังหรือพื้นเพื่อเปิดช่องภายหลัง แม้จะดูเหมือนงานช่างทั่วไป แต่จริง ๆ แล้วเป็นงานที่เกี่ยวข้องกับความปลอดภัยของอาคารโดยตรง เพราะหากเจาะผิดจุด ผิดวิธี หรือไม่เข้าใจโครงสร้างที่ซ่อนอยู่ภายใน ก็อาจทำให้เกิดความเสียหายรุนแรง ทั้งต่อโครงสร้างโดยรวม ระบบงานภายใน และแม้แต่ต่อชีวิตและทรัพย์สินของผู้ใช้อาคาร ไม่ว่าจะเป็นการเจาะเพื่อเดินท่อ ติดแอร์ เดินสายไฟ หรือเพื่อดัดแปลงพื้นที่เพิ่มเติม การทำงานให้ปลอดภัยและแม่นยำ ต้องอาศัยทั้งเครื่องมือเฉพาะทาง ความเข้าใจด้านวิศวกรรม และประสบการณ์จริงจากผู้เชี่ยวชาญในภาคสนาม หากคุณกำลังวางแผนเจาะเปิดช่องในอาคาร ไม่ว่าจะเป็นบ้าน อาคารสำนักงาน โรงงาน หรือพื้นที่รีโนเวตต่าง ๆ KN Progress พร้อมให้คำปรึกษาโดยทีมช่างมืออาชีพที่มีความชำนาญเฉพาะด้าน สนใจสอบถามได้เลย

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *