การเจาะผนังปูนอาจดูเป็นงานเล็กน้อย ดูเรียบง่าย และไม่ซับซ้อน แต่หารู้ไม่ว่าหากไม่มีการเตรียมตัวอย่างถูกต้องในการเจาะ ก็ทำให้เกิดความเสียหายต่อผนังได้อย่างร้ายแรงเช่นกัน ตั้งแต่รูเจาะที่ไม่เรียบสนิท ความเสียหายต่อโครงสร้างของผนัง หรือแม้กระทั่งผนังพังเกิดรอยร้าวจนแตกเป็นเสี่ยง ๆ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาที่ทำให้ผนังปูนพังเกิดขึ้น ครั้งนี้ KN progress จะพาคุณไปดู 5 Checklist ก่อนเจาะผนัง คู่มือฉบับที่เข้าใจได้ง่าย ที่จะช่วยให้คุณสามารถเตรียมตัวได้อย่างถูกต้อง และปลอดภัย ทำให้งานเจาะผนังของคุณเป็นเรื่องที่ง่ายและราบรื่นในแบบที่คุณต้องการ
1. วางแผนและกำหนดจุดเจาะผนังปูน
สิ่งแรกคือการวางแผนและกำหนดจุดเจาะผนังให้เรียบร้อย ให้กำหนดแน่นอนว่าจะเจาะจุดใด และทำความเข้าใจว่าผนังดังกล่าวเป็นอย่างไร ขั้นตอนนี้จะไม่ยุ่งยาก เพียงแค่กำหนดและทำความเข้าใจให้แน่ชัดก่อนจะเริ่มลงมือเจาะจริง เพราะการวางแผนและกำหนดจุดเจาะให้ชัดเจน ทั้งการจัดการเคลียร์ของที่ขวางการเจาะ หรือเตรียมพื้นที่สำหรับการทำความสะอาดหลังเจาะไว้ ด้วยสิ่งเหล่านี้จะช่วยให้การเจาะผนังปูนนั้นเป็นไปได้อย่างราบรื่นในแบบที่คุณต้องการ
2. ทำความรู้จักผนังปูนของคุณ
หลังจากวางแผนและกำหนดจุดเจาะผนังได้เรียบร้อยแล้ว การทำความรู้จักกับผนังให้รู้ละเอียดก่อนเป็นสิ่งที่มองข้ามไม่ได้เช่นกัน เพราะ การรู้จักผนังของคุณว่าเป็นอย่างไรจะช่วยให้คุณสามารถเตรียมตัวและอุปกรณ์เจาะที่เหมาะสม รวมไปถึงการเลือกใช้วิธีการเจาะที่ถูกต้อง เพื่อป้องกันไม่ให้ผนังเกิดความเสียหายต่อโครงสร้างของบ้าน / อาคาร
2.1. ผิวของผนัง
พื้นผิวของผนังของแต่ละที่จะไม่เหมือนกัน สิ่งสำคัญแรกที่จะต้องตรวจสอบก่อนคือ ผนังของคุณถูกฉาบ เคลือบ หรือทาสีด้วยอะไรบ้าง เพื่อเตรียมรับมือได้อย่างถูกต้อง
- ผนังปูนเปลือย: มักมีการลงน้ำยาเคลือบเพื่อให้เกิดความเสียหายและป้องกันการซึมของน้ำ
- ผนังทาสี: สีที่ทาหนาจนเกิดไปในบางพื้นที่อาจจะมีการหลุดออกมาเมื่อมีการเจาะ ควรระมัดระวังเป็นพิเศษก่อนที่จะทำการเจาะ
- ผนังติดวอลเปเปอร์: การเจาะผนังที่ติดวอลเปเปอร์อาจทำให้ตัวกระดาษฉีกขาดได้ ควรเลือกใช้เครื่องมือที่เจาะให้เหมาะสม และระมัดระวังเป็นอย่างยิ่ง
- ผนังปูนขัดมัน: ผนังรูปแบบนี้มักมีการลงน้ำยาเคลือบให้เกิดความมันวาว การซ่อมแซมเมื่อทำการเจาะพลาดจะยากกว่าผนังปูนทั่วไป
- ผนังโบกปูนที่มีเทกเจอร์แบบมีมิติ: ผนังรูปแบบนี้จะมีความหนามากกว่าผนังทั่วไป ต้องใช้เครื่องมือในการเจาะที่เหมาะสมกับความหนาและเทกเจอร์ของผนังปูน
2.2. โครงสร้างของผนัง
การตรวจสอบโครงสร้างของผนังก็เป็นอีกสิ่งที่ไม่ควรมองข้าม เพราะมันสำคัญอย่างมากในการเจาะ การที่คุณรู้ว่าผนังที่จะเจาะเป็นผนังรับน้ำหนัก (Load-bearing-wall) หรือผนังที่ไม่รับน้ำหนัก (Non load-bearing wall) จะทำให้คุณรู้ว่าควรต้องทำอย่าไงรต่อ โดยทั่วไปแล้วผนังรับน้ำหนักจะมีหน้าที่ในการรองรับน้ำหนักของโครงสร้างบ้าน หากเจาะผิดตำแหน่งอาจทำให้โครงสร้างของบ้านเกิดความเสียหายได้ แต่ในอีกด้านผนังไม่รับน้ำหนักนั้นสามารถเจาะได้ง่ายกว่า แต่ก็ต้องตรวจสอบให้แน่ใจว่าไม่มีสายไฟหรือไม่มีระบบท่อใด ๆ ซ่อนอยู่ในผนัง
3.เช็คระบบสายไฟและท่อภายในผนัง
เมื่อเข้าใจแล้วว่าผนังของคุณเป็นอย่างไร สิ่งถัดไปที่ไม่ว่าจะเป็นมือใหม่หรือมืออาชีพในงานเจาะต้องตรวจสอบเป็นอย่างยิ่งเลยคือ การเช็คระบบสายไฟหรือระบบท่อที่อยู่ภายในผนังที่เราจะทำการเจาะ เพราะในบ้าน หรืออาคารแต่ละที่ บางผนังมีการฝังระบบสายไฟ หรือระบบท่อต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น ท่อระบายอากาศ ท่อน้ำ ท่อสายเคเบิล ฯลฯ อยู่ด้วยเสมอ หากมีการเจาะแล้วไปโดนสิ่งเหล่านี้คงไม่ใช่เรื่องดีอย่างแน่นอน เพราะอาจสร้างความเสียหายให้กับโครงสร้างของผนัง และระบบต่าง ๆ ได้
ดังนั้นคุณต้องทำการเช็คหรือตรวจสอบระบบสายไฟ และระบบท่อภายในผนังให้ดีก่อน ว่าในจุดที่คุณจะเจาะนั้นมีหรือไม่ หากมีก็อาจจำเป็นต้องเลื่อนจุดเจาะไม่ให้โดนระบบสายไฟ และท่อภายในผนัง หรือทางแก้ที่ดีที่สุดคือพยายามหลีกเลี่ยงการเจาะผนังที่มีการเดินระบบสายไฟ หรือท่อภายในผนังไปเลยดีกว่า
4.ประเมินความเสี่ยงก่อนการเจาะผนังปูน
ถึงแม้คนจะมองว่างานเจาะผนังปูนดูเป็นเรื่องเล็กน้อยที่ไม่ยุ่งยาก และซับซ้อนมากนัก แต่มันก็ยังเป็นงานที่ต้องการความระมัดระวังอย่างยิ่ง เนื่องจากมีความเสี่ยงที่จะทำให้ผนังเสียหาย และเกิดอุบัติเหตุต่าง ๆ ได้ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาเหล่านี้ขึ้น การประเมินสภาพผนังและวัสดุของผนังอย่างละเอียดจึงเป็นสิ่งที่ไม่ควรมองข้าม โดยการประเมินความเสี่ยงก่อนการเจาะผนังมีหลัก ๆ ดังนี้
- ตรวจสอบสภาพผนังว่าเป็นอย่างไร?: ก่อนเริ่มการเจาะ คุณควรตรวจสอบผนังอย่างละเอียดว่ามีความเสียหาย หรือมีรอยร้าว จุดบกพร่องจุดใดไหม หากผนังมีรอยแตกร้าว รอยเปื้อนจากน้ำ หรือรอยฉีกขาดของวอลเปเปอร์ ก็อาจจะต้องได้รับการซ่อมแซมก่อนการเจาะ เพราะไม่ฉะนั้นผนังที่ไม่แข็งแรงมากพอ จะไม่สามารถรองรับน้ำหนักหรือแรงกระแทกที่เกิดจากการเจาะได้
- ตรวจสอบความหนาและวัสดุของผนัง: การรู้ถึงความหนาและวัสดุของผนังจะช่วยให้คุณเลือกเครื่องมือ สว่าน หรือวิธีการเจาะได้อย่างเหมาะสม เพราะผนังบางประเภทเช่น ผนังปูนที่มีเทกเจอร์หรือผนังที่มีการเคลือบด้วยวัสดุพิเศษ จะต้องใช้เทคนิคหรืออุปกรณ์ที่พิเศษมากขึ้นในการเจาะเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดความเสียหาย การรู้และเข้าใจถึงความหนาและวัสดุของผนังปูนจะช่วยให้คุณจัดการเจาะได้อย่างไม่มีปัญหา
5.เลือกอุปกรณ์และเทคนิคเจาะให้เหมาะสม
เพื่อให้การเจาะผนังปูนสำเร็จ และเป็นไปได้อย่างราบรื่น ปลอดภัยที่สุด การเลือกอุปกรณ์และเทคนิคการเจาะให้เหมาะสมเป็นสิ่งสำคัญที่ไม่ควรมองข้ามอย่างเด็ดขาด เพราะการเลือกที่เหมาะสมจะช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดความเสียหายต่อผนังและอุปกรณ์ที่ใช้เจาะด้วย
อุปกรณ์ในการเจาะผนัง
- สว่านไฟฟ้า: ทั่วไปแล้วในการเจาะผนังปูน มักจะเลือกใช้สว่านไฟฟ้า เพราะเป็นอุปกรณ์ที่ดูหาใช้งานง่าย และยังเป็นอุปกรณ์หลักที่ใช้ในการเจาะผนัง โดยสิ่งสำคัญของในการเลือกคือกำลังแรงที่พอจะเจาะผนัง และควรเลือกใช้สว่านที่มีความเร็วรอบที่ปรับได้ เพื่อควบคุมความเร็วในการเจาะได้อย่างเหมาะสม
- ดอกสว่านสำหรับเจาะผนังปูน: การเลือกดอกสว่านที่เหมาะกับผนังปูนแต่ละประเภทเป็นสิ่งสำคัญ ดอกสว่านที่ทำมาจากคาร์ไบด์ หรือทังสเตนคาร์ไบด์จะมีความแข็งแรงและทนทานต่อการเจาะผนังได้เป็นอย่างดี
เทคนิคการเจาะผนัง
- เริ่มเจาะด้วยความเร็วต่ำ: เมื่อเริ่มต้นการเจาะ ควรใช้ความเร็วรอบต่ำเพื่อควบคุมทิศทางและตำแหน่งของรูเจาะให้ดีก่อน จากนั้นจึงค่อย ๆ เพื่อความเร็วของดอกสว่านเพื่อเจาะเข้าไปในผนัง
- การใช้เทปกาวปิดตำแหน่งเจาะ: เทคนิคนี้มีเพื่อป้องกันการแตกร้าวหรือหลุดของสีผนัง โดยใช้เทปกาวปิดตำแหน่งที่จะเจาะก่อนเริ่ม เมื่อการเจาะเสร็จสิ้นจึงค่อยดึงเทปกาวออก
- การเจาะเป็นระยะๆ : หากคุณต้องการรู้เจาะที่มีความลึก ควรเจาะเป็นระยะๆ โดยไม่เจาะลึกในครั้งเดียว เพื่อป้องกันไม่ให้ดอกสว่านร้อนจนเกินไป รวมไปถึงการป้องกันการแตกร้าวของผนัง
- เลือกดอกสว่านที่เหมาะสม: เทคนิคพื้นฐานในการเจาะผนัง คือควรเลือกใช้ดอกสว่านที่มีขนาดเหมาะสมกับรูที่ต้องการเจาะ ไม่ควรเลือกใช้ขนาดที่ใหญ่เกินไปเพราะอาจทำให้ผนังเกิดรอยแตกร้าวได้
บทสรุป Checklist เรียบร้อยก็พร้อมเจาะผนังปูนได้เลย
เมื่อคุณได้ตรวจสอบและเตรียมตัวตาม 5 Checklist ที่ทาง KN progress ได้แนะนำไปแล้ว การเจาะผนังปูนจะกลายเป็นเรื่องที่ง่ายดายและปลอดภัยมากยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นมือใหม่หรือมืออาชีพ คุณจะมีความมั่นใจในการเจาะมากขึ้นเพราะได้วางแผนการเจาะอย่างรอบคอบ รู้จักผนังของคุณว่าควรทำอย่างไร ตรวจสอบความเสี่ยง ระบบสายไฟหรือท่อภายในผนัง และยังเลือกใช้อุปกรณ์และเทคนิคการเจาะที่เหมาะสม ด้วยสิ่งเหล่านี้จะทำให้การเจาะผนังของคุณเป็นไปอย่างมืออาชีพ ไม่มีปัญหามารบกวนหลังการเจาะ และได้ผลลัพธ์ในแบบที่คุณคาดหวังไว้อย่างแน่นอน
ซึ่งทั้งหมดนี้ KN progress พร้อมจัดการให้ได้ เพราะเราเป็นบริษัทที่ให้บริการวิศวกรรมด้านการเจาะที่ครบวงจร ตั้งแต่การเจาะทั่วไป เจาะคอริ่ง เจาะเสียบเสาเหล็ก ทุกงานเจาะจัดการได้แบบอยู่หมัด นอกจากนี้เรายังมีบริการด้านอื่น ๆ ทั้งการสแกนคอนกรีต ตัดพื้นคอนกรีต ให้คุณได้พร้อมใช้บริการงานวิศวกรรมแบบมืออาชีพโดยทันที
