เคยไหม? เจาะผนังเพื่อทำจะติดตั้งแต่ดันพลาดไปเจาะพลาดเจอจุดที่ไม่ใช่จนผนังเป็นรู! หรือบางครั้งก็เปลี่ยนใจกลางคัน ทิ้งไว้แต่รูเจาะให้มองแล้วปวดใจ จะเรียกช่างก็คงไม่คุ้มค่าแน่ ๆ ซ่อมเองก็เหมือนจะยาก เราบอกเลยว่าความจริงแล้วมันง่ายกว่าที่คิด ไม่ว่ารูจะเล็กเท่าไม้จิ้มฟัน หรือใหญ่พอใส่นิ้วเข้าไปได้ คุณเองก็สามารถซ่อมผนังให้กลับมาสวยเป๊ะเหมือนใหม่ได้ ด้วยเทคนิคง่าย ๆ ที่เราจะพาคุณไปรู้จัก รับรองเลยว่าทำเองได้ในไม่กี่ขั้นตอน ใช้งบแค่ไม่กี่บาท และไม่ต้องใช้เครื่องมือที่ยุ่งยาก จากรูที่เป็นปัญหา จะกลายเป็นเรื่องชิลล์ ๆ ที่คุณสามารถแก้ไขได้แบบมือโปรเองที่บ้าน ไปดูวิธีซ่อมผนังแบบง่าย ๆ กันเลย
ปัญหาผนังเป็นรูจากการเจาะพลาด เกิดขึ้นได้ยังไง?
ผนังเป็นรูจากการเจาะพลาดอาจฟังดูเป็นปัญหาจิ๊บ ๆ แต่จริง ๆ แล้วมันเป็นปัญหาที่พบได้บ่อยจาก การเจาะติดตั้งงานต่าง ๆ ด้วยตัวเอง และสาเหตุของการเกิดรูเจาะพลาดก็มีหลากหลาย ขึ้นอยู่กับสถานการณ์และอุปกรณ์ที่ใช้ ซึ่งปัญหาของคุณอาจเป็นหนึ่งในลิสต์ที่เรารวบรวมมาให้ในบทความนี้ มาดูกันว่าอะไรทำให้เรามักเจอกับรูที่ไม่ควรมีบนผนังกันบ้าง
สาเหตุการเจาะผนังเป็นรูที่เกิดจากการพลาด
การเจาะผนังดูเป็นเรื่องง่ายใช่ไหม แต่มันสามารถกลับกลายเป็นปัญหาที่ทำให้คุณปวดหัวได้ คงไม่มีใครอยากเจาะพลาดและอยากให้ผนังเป็นรูแน่นอน เพราะเรื่องของความสวยเป๊ะ! เป็นสิ่งที่ต้องการของเจ้าของสถานที่ทุกคนแน่นอน แต่การเจาะพลาดนั้นเกิดจากหลายปัจจัย นี่คือสาเหตุหลัก ๆ ที่ทำให้หลายคนเจาะพลาด
- เจาะผิดจุดเพราะการวางแผนที่ไม่ชัดเจน
การเจาะผนังผิดขึ้นได้ อาจเกิดขึ้นโดยไม่ได้วางแผนล่วงหน้า เช่น เจาะตามอารมณ์หรืออยากลองผิดลองถูกเอง ซึ่งเป็นสิ่งที่นำไปสู่การเจาะกับจุดที่ไม่เหมาะสม เช่น ผนังบางเกินไปหรืออยู่ใกล้ขอบผนังเกินไป และบางทีเจาะไปแล้วถึงรู้ว่าระดับไม่เท่ากัน หรือวัดตำแหน่งไม่เป๊ะทำให้ต้องเจาะซ้ำ และทำให้ต้องทิ้งรูเก่าไว้บนผนังอีก ดังนั้นหากไม่อยากให้เจาะซ้ำ ควรวางแผนล่วงหน้าก่อนเจาะจริง - เลือกเครื่องมือไม่เหมาะสม
การใช้ดอกสว่านที่ไม่ตรงกับประเภทผนังจะทำให้รูเจาะไม่เรียบและมีความเสียหายรอบรู สว่านที่แรงไม่พอหรือการปรับความเร็วผิด อาจทำให้การเจาะลื่นหลุดจากตำแหน่งเดิม นอกจากนี้อุปกรณ์เก่า ดอกสว่านไม่คม ทำให้เจาะไม่เข้าหรือทะลุแบบไม่ได้ดั่งใจ อาจทำให้การเจาะไม่แม่น รูออกมาเบี้ยว หรือมากไปกว่านั้นรูใหญ่ไม่สวย การเลือกเครื่องให้ตรงจุดจะทำให้รูออกมาสวยและงานเสร็จแล้ว - ผนังมีข้อจำกัดทางโครงสร้าง
บางครั้งเราไม่รู้ว่าผนังที่จะเจาะนั้นมีอะไรอยู่ด้านในหรือเปล่าอาจมี ท่อประปา สายไฟ หรือเหล็กเสริมอยู่ในโครงสร้าง การเจาะเข้าโดยไม่รู้ไปอาจทำให้เจาะพลาดไปโดนสิ่งที่ไม่ควรเจาะ ยิ่งไปกว่านั้นสิ่งที่อยู่ภายในอาจเสียหายจนทำให้ปัญหาใหญ่ตามมา นอกจากนี้การเจาะกับผนังที่ไม่เหมาะสม เช่น ผนังฉาบปูน ผนังคอนกรีต หรือผนังอิฐ มีคุณสมบัติแตกต่างกัน หากใช้เครื่องมือผิดเจาะไม่เข้าพื้นผิวรอบรูเสียหายหรือทิ้งร่องรอยไว้ได้ - เปลี่ยนใจระหว่างการติดตั้ง
ปัญหานี้มักเกิดกับอารมณ์ของคนที่อยากจะติดตั้งที่จะเกิดขึ้นระหว่างการติดตั้งของ เช่น ชั้นวาง กรอบรูป หรือทีวี หลายคนเปลี่ยนใจกลางคัน เลือกเจาะจุดใหม่ แต่ทิ้งรอยเจาะเก่าไว้ให้รกตาโดยไม่ได้ใช้งาน - ฝีมือไม่ชำนาญหรือขาดประสบการณ์
สำหรับมือใหม่ การเจาะผนังอาจดูเหมือนง่าย แต่ในความจริงมันมีเทคนิคและรายละเอียดมากมาย เช่น การจับสว่านให้มั่นคง หรือการเจาะในมุมที่เหมาะสม หากความความรู้เกี่ยวกับประเภทของผนังหรือเครื่องมือเจาะอาจเจาะพลาดได้
ไม่อยากได้รูที่ไม่ตั้งใจบนผนังสวย ๆ ถ้าอยากหลีกเลี่ยงปัญหาเหล่านี้ สิ่งสำคัญคือการวางแผนล่วงหน้า ใช้เครื่องมือที่เหมาะสม และเพิ่มความรอบคอบในทุกขั้นตอน อย่าลืมว่า ทุกครั้งที่ถือสว่าน คุณกำลังจะสร้างรอยที่จะอยู่กับบ้านคุณอีกนาน เจาะพลาดรูเดียว ก็เหมือนมีเรื่องเล่าใหม่มาให้พูดถึงแบบเซ็ง ๆ เมื่อสายตาโคจรไปเห็นแต่ละครั้ง
เตรียมตัวให้พร้อม! รวมอุปกรณ์เทพสำหรับซ่อมผนังเป็นรูแบบง่าย ๆ
การซ่อมผนังเป็นรูให้เหมือนใหม่ ไม่ใช่เรื่องยาก ถ้าคุณมี “ตัวช่วย” ที่เหมาะสม ก่อนจะเริ่มซ่อมผนังเรามาเตรียมตัวให้พร้อมด้วยอุปกรณ์คู่ใจที่จะช่วยให้การซ่อมของคุณทั้งง่ายและเนียนกริบกันดีกว่า การมีอุปกรณ์ที่เหมาะสม ไม่เพียงช่วยให้ทำงานเร็วขึ้น แต่ยังลดโอกาสที่จะแก้งานซ้ำอีกด้วย มาดูกันว่าอุปกรณ์ที่เป็นไอเท็มลับ ช่วยให้การซ่อมของคุณทั้งง่าย สะดวก และออกมาสวยเป๊ะเหมือนจ้างช่างมืออาชีพที่คุณต้องมี มีอะไรบ้าง!
อุปกรณ์พื้นฐานที่ต้องมีสำหรับซ่อมผนังเป็นรู
ก่อนที่คุณจะเริ่มภารกิจซ่อมผนังเป็นรู การเตรียมอุปกรณ์ให้ครบครันคือหัวใจสำคัญ! อุปกรณ์พื้นฐานที่เหมาะสมไม่เพียงช่วยให้งานซ่อมราบรื่น แต่ยังลดโอกาสพลาดให้น้อยที่สุด ช่วยให้คุณซ่อมผนังที่เป็นรูได้แบบมือโปร แม้ว่าจะเป็นมือใหม่ก็ตาม โดยอุปกรณ์เหล่านี้หาได้ง่ายในร้านฮาร์ดแวร์ทั่วไป และบางอย่างอาจมีอยู่แล้วในบ้านคุณเอง มาดูกันว่าคุณต้องเตรียมอะไรบ้างเพื่อให้งานซ่อมนี้ออกมาสมบูรณ์ที่สุด
- พัตตี้หรือปูนฉาบสำเร็จรูป: ตัวเลือกที่ใช้ง่ายและสะดวกที่สุด สำหรับอุดรูและเติมเต็มพื้นผิว
- เกรียงปาดหรือไม้ปาด: เพื่อช่วยปาดพัตตี้หรือปูนให้เรียบ หรือถ้าไม่มีเกรียง ลองใช้บัตรพลาสติกหรือไม้เรียบแทนได้ในกรณีฉุกเฉิน
- กระดาษทราย: สำหรับขัดพื้นผิวให้เนียนเสมอกัน
- สีทาผนังและอุปกรณ์ทาสี: ใช้เพื่อปิดรอยซ่อมให้กลมกลืน โดยให้เลือกสีที่เข้ากับผนังเดิม อุปกรณ์ที่ใช้คือ แปรงทาสี หรือ ลูกกลิ้ง
- ฟองน้ำและผ้าแห้ง: สำหรับทำความสะอาดพื้นที่ก่อนเริ่มงาน
- อุปกรณ์เสริมสำหรับงานยาก: เช่น แผ่นตาข่ายไฟเบอร์ใช้ปิดรูขนาดใหญ่ เทปกระดาษซ่อมรรอยสำหรับรอยแตกร้าวยาว ๆ เครื่องวัดระยะและเครื่องตรวจสายไฟถ้าต้องการเจาะเพิ่มหรือต้องการเช็กสายไฟและท่อด้านใน
ขั้นตอนการซ่อมผนังเป็นรูแบบง่าย ๆ ของสาย DIY
จากเนื้อที่ผ่านมาแล้วการซ่อมผนังเป็นรู อาจดูเป็นงานที่ยุ่งยากขึ้นมา แต่จริง ๆ แล้วคุณยังคงสามารถทำได้ด้วยตัวเองแบบง่าย ๆ เพียงแค่รู้ขั้นตอนที่ถูกต้อง ไม่ว่ารูบนผนังจะเกิดจากสาเหตุการเจาะแบบใด คุณสามารถซ่อมแซมมันได้เองอย่างมืออาชีพ โดยใช้เวลาไม่นาน และใช้งบประมาณเพียงเล็กน้อยเท่านั้น
การซ่อมผนังให้เหมือนใหม่ต้องอาศัยความรอบคอบในแต่ละขั้นตอน ตั้งแต่การเตรียมผนังจนถึงการเก็บรายละเอียดสุดท้าย เพื่อให้พื้นผิวกลับมาเรียบเนียน และดูสวยเหมือนเดิม มาดูกันว่าขั้นตอนง่าย ๆ ในการซ่อมผนังด้วยตัวเองมีอะไรบ้าง และทำอย่างไรให้ผนังกลับมาสมบูรณ์แบบอีกครั้ง
ขั้นตอนที่ 1: ล้างฝุ่น เช็ดคราบ เคลียร์พื้นที่ผนังเป็นรูก่อนลุย!
ก่อนจะเริ่มการซ่อมแซมผนังเป็นรู สิ่งแรกที่ต้องทำคือ เตรียมพื้นที่ให้พร้อม เหมือนกับการปูสนามก่อนแข่งขัน บริเวณรอบ ๆ อาจมี ฝุ่น เศษปูน หรือคราบสกปรกต่าง ๆ อยู่ เพราะฉะนั้นการทำความสะอาดบริเวณรอบ ๆ รูบนผนัง เป็นการเตรียมพื้นผิวให้เรียบลื่น พร้อมสำหรับขั้นตอนการซ่อมอย่างสมบูรณ์แบบ หากไม่ทำความสะอาดการซ่อมอาจไม่ได้ผลลัพธ์ที่ดีอย่างที่หวังไว้ พัตตี้อาจไม่ติด หรือผิวหน้าของงานซ่อมอาจไม่เรียบเนียน ดังนั้น การเริ่มต้นด้วยพื้นผิวสะอาดจึงเป็นหัวใจของงานซ่อมที่ดูเป๊ะ
ขั้นตอนที่ 2: เติมพัตตี้และปาดผนังเป็นรูให้เรียบ
ขั้นตอนนี้จะเป็นช่วงเวลาที่คุณจะได้เปลี่ยนผนังเป็นรูที่ดูน่าหนักใจ ให้กลายเป็นแค่ความทรงจำ การเติมพัตตี้หรือปูนฉาบคือขั้นตอนสำคัญที่สุดในการซ่อมผนัง เพราะถ้าทำได้ดี ผนังของคุณจะกลับมาเนียนสวยเหมือนไม่เคยมีรูเจาะมาก่อน
เริ่มพัตตี้ยังไงให้เนียนกริบ?
- เตรียมพัตตี้ให้พร้อม
ก่อนลงมือ ใช้ไม้กวนหรือเครื่องมือคนพัตตี้ในถังให้เนื้อเนียน ถ้าใช้ปูนฉาบสำเร็จรูป ให้เติมน้ำเล็กน้อยและคนจนได้เนื้อที่พอดี ไม่เหลวหรือข้นเกินไป - เกรียงคือเพื่อนแท้ของคุณ!
ตักพัตตี้ปริมาณพอดี ไม่มากจนล้น ไม่น้อยจนเกินไป แล้วค่อย ๆ ทาลงในรูผนัง กดพัตตี้ให้ลึก เข้าไปในรูจนเต็ม เพื่อความแข็งแรง - ปาดในจังหวะเดียวกัน
จากนั้นใช้เกรียงปาดพัตตี้ให้เรียบเนียนไปกับพื้นผิวรอบ ๆ ในแนวเดียวกัน ระวัง! อย่าปาดสลับไปมามากเกิน เพราะจะทำให้เนื้อพัตตี้ไม่เสมอกัน - เก็บรายละเอียด
ถ้ารูใหญ่หรือผนังไม่เรียบพอ ให้รอพัตตี้เซ็ตตัวประมาณ 10-15 นาที แล้วเติมพัตตี้เพิ่มเล็กน้อยเพื่อเก็บงาน และปาดพัตตี้ให้เสร็จเรียบร้อย จากนั้นปล่อยให้พัตตี้แห้งสนิทแล้วเตรียมเข้าสู่ขั้นตอนถัดไป
ขั้นตอนที่ 3: แห้งแล้ว ขัดให้เรียบเหมือนใหม่! กลมกลืนจนลืมไปว่ามีผนังเป็นรู
เมื่อเติมพัตตี้กับผนังเป็นรูและรอจนแห้งตัวเสร็จแล้ว ขั้นตอนถัดไป คือ การขัดผิวซึ่งเป็นขั้นตอนสำคัญที่เปลี่ยนจากผนังผิวนูน ขรุขระ ให้กลายเป็นผนังเรียบเนียนระดับมืออาชีพ โดยเริมจากการเลือกกระดาษทรายที่เหมาะสม เช่น กระดาษทราย เบอร์ 120-150 ใช้สำหรับการขัดหยาบในรอบแรก ปรับระดับให้เท่ากับผนัง ต่อด้วยกระดาษทราย เบอร์ 220 ขึ้นไป ใช้สำหรับรอบสุดท้าย เพื่อความเรียบเนีย
การขัดนั้นให้คุณขัดในทิศทางเดียวกัน จับกระดาษทรายให้มั่น แล้วขัดเบา ๆ ในทิศทางเดียวกัน อย่าขัดวนแบบแรง ๆ เพราะอาจทำให้พัตตี้หลุดหรือพื้นผิวไม่เรียบ เมื่อขัดเสร็จแล้ว ตรวจสอบเผิวหาจุดขรุขระด้วยมือและสายตา เมื่อเรียบแล้วก็กำจัดฝุ่นที่เกิดจากการขัด โดยใช้ฟองน้ำหมาด ๆ หรือผ้าแห้งเช็ดฝุ่นออกให้หมดก่อนเริ่มขั้นตอนถัดไป
ขั้นตอนที่ 4: ทาสีให้เนียน! แปลงโฉมผนังเป็นรูให้ใหม่แบบมือโปร
ถึงเวลาปิดจ็อบขั้นสุดท้าย หลังจากขัดจนเรียบแล้ว การทาสีจะเป็นเหมือนเวทมนตร์ที่เสกให้ผนังที่เคยมีร่องรอยการซ่อมแซม กลับมาเหมือนใหม่จนไม่มีใครจับได้ว่าตรงนี้คือผนังเป็นรูมาก่อน แถมยังช่วยให้บ้านของคุณดูสดใสและเป๊ะเหมือนตอนสร้างเสร็จใหม่ ๆ
ขั้นตอนในการทาสีนั้นเริ่มจากการใช้อุปกรณ์ที่เตรียมไว้แล้วเช่น แปรงหรือลูกกลิ้ง ถาดสี และสี ให้คุณทาสีไปรอบแรกโดยจุ่มแปรงหรือลูกกลิ้งลงไปที่สีในปริมาณพอเหมาะ แล้วทาเบา ๆ ในแนวเดียวกันไปให้ที่บริเวณรอยซ่อม จากนั้นรอให้แห้งประมาณ 1-2 ชั่วโมง
พอครบเวลาที่กำนหดแล้วให้ทาซ้ำรอบที่สองเพื่อเพิ่มความกลมกลืนระหว่างรอยซ่อมและผนังเดิม ถ้าเป็นรอยซ่อมใหญ่ ให้ขยายพื้นที่การทาสีออกไปอีกเล็กน้อยเพื่อช่วยพรางตา ทาเสร็จก็รอแห้ง ขณะนี้ให้ตรวจเช็กความกลมกลืนโดยใช้แสงธรรมชาติเพื่อดูว่าพื้นที่ซ่อมกลืนกับผนังเดิมหรือไม่ หากยังเห็นความต่าง ลองทาซ้ำอีกครั้ง ด้วยเทคนิคง่าย ๆ เหล่านี้ คุณก็สามารถทำให้ผนังกลมกลืนกับสีเดิมได้อย่างไร้ที่ติ
ข้อควรระวัง! ซ่อมผนังเป็นรูเองให้เป๊ะ ต้องเลี่ยงความผิดพลาดแบบนี้
หลังจากรู้ขั้นตอนการซ่อมผนังเป็นรูเองแล้ว ดูเหมือนง่ายใช่ไหม? แต่ถ้าไม่ระวังให้ดี อาจกลายเป็นงานหนักที่ต้องกลับมาแก้ซ้ำได้ เพราะการซ่อมผนังไม่ใช่แค่การเติมพัตตี้หรือทาสี แต่ต้องใส่ใจรายละเอียดเล็ก ๆ เพื่อให้งานออกมาสวยและแข็งแรงในระยะยาว ซึ่งการซ่อมผนังเองก็ควรระวังขณะทำด้วย โดยข้อระวังที่ต้องรู้ในการซ่อมแซมผนัง เพื่อไม่ให้เสียเวลากับการแก้งาน ได้แก่
- อย่าข้ามขั้นตอนการเตรียมพื้นผิว: ถ้าพื้นที่รอบ ๆ รูยังมีฝุ่น เศษปูน หรือคราบมัน การเติมพัตตี้อาจไม่ยึดติดกับผนัง
- เลือกพัตตี้และอุปกรณ์ให้เหมาะสม: พัตตี้มีหลายประเภท อย่าใช้ผิดประเภท เพราะอาจทำให้พัตตี้แตกหรือไม่ยึดแน่น
- อย่าเร่งขั้นตอนการแห้ง: อาจทำให้พื้นผิวไม่เรียบหรือมีปัญหาเมื่อทาสีและอย่าใช้ไดร์เป่าเพราะความร้อนอาจทำให้พัตตี้หดตัวเร็วเกินไป
- ระวังการขัดที่แรงเกินไป: การขัดแรงอาจทำให้พัตตี้บางหรือหลุดร่อนจนต้องเติมใหม่
- อย่าทาสีทันทีหลังขัด: ฝุ่นจากการขัดพัตตี้อาจเกาะอยู่บนผนัง ทำให้สีที่ทาไม่ติดหรือเป็นคราบหากไม่เช็ดฝุ่นก่อน
- ระวังเฉดสีที่ไม่ตรงกับผนังเดิม: การเลือกสีผิดอาจทำให้ผนังดูแปลกและรอยซ่อมเด่นชัดเกินไป
- ใส่อุปกรณ์ป้องกันตัวเอง: หากไม่ป้องกันเป็นอันตรายต่อสุขภาพ และอาจทำให้ระคายเคืองผิวหรือเกิดอาการแพ้ ควรใส่ถุงมือ หน้ากากและเปิดหน้าต่างเพื่อระบายอากาศขณะทำงาน
บทสรุป การซ่อมผนังเป็นรูจากการเจาะพลาดให้เป๊ะด้วยตัวเอง
จากขั้นตอนการซ่อมแซมแล้ว ปัญหาผนังเป็นรูไม่ใช่เรื่องใหญ่ ด้วยขั้นตอนง่าย และอุปกรณ์พื้นฐานที่หาได้ไม่ยาก คุณสามารถซ่อมแซมผนังให้กลับมาสวยเหมือนใหม่ได้ด้วยตัวเอง ไม่ต้องเสียเงินจ้างช่าง แถมยังเพิ่มความภูมิใจในฝีมือ DIY ของคุณอีกด้วย แต่ถ้าคุณต้องการเลี่ยงปัญหาเจาะพลาดการเตรียมความพร้อมด้วยการสแกนโครงสร้างก็เป็นอีกหนึ่งวิธีที่ช่วยลดความเสี่ยง ไม่ว่าจะเป็นการเจาะเพื่อวางระบบไฟฟ้า ติดตั้งท่อประปา หรือแม้แต่การติดตั้งเฟอร์นิเจอร์ การสแกนจะช่วยให้คุณรู้ตำแหน่งของโครงเหล็ก สายไฟ หรือท่อที่ซ่อนอยู่ในผนังอย่างแม่นยำ ลดโอกาสเกิดความเสียหายและค่าใช้จ่ายที่ไม่คาดคิด